ปตท.สผ. ยืนยันสถานะการเงินแข็งแกร่ง พร้อมจ่ายปันผลงวดครึ่งปีหลัง 2 บาทต่อหุ้น

28 มกราคม 2559
ดาวน์โหลด PDF

ปตท.สผ. ยืนยันสถานะการเงินแข็งแกร่ง พร้อมจ่ายปันผลงวดครึ่งปีหลัง 2 บาทต่อหุ้น

  • มีกำไรจากการดำเนินงานปกติ 718 ล้านดอลลาร์ สรอ. โดยมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานปี 2558 กว่า 2,800 ล้านดอลลาร์ สรอ. เพียงพอสำหรับการลงทุนเพื่อรักษาระดับการผลิต
  • ปริมาณการขายปิโตรเลียมในปี 2558 เฉลี่ย 322,167 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เติบโต 3% ตามเป้าหมาย
  • สถานะการเงินยังมั่นคง และแข็งแกร่ง โดยมีเงินสดในมือกว่า 3,200 ล้านดอลลาร์ สรอ. พร้อมรับสถานการณ์ราคาน้ำมันผันผวน

นายสมพร ว่องวุฒิพรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยว่า ในปี 2558 ปตท.สผ.สามารถเพิ่มปริมาณการขายได้ตามแผนงานที่วางไว้ โดยมีกำไรจากการดำเนินงานปกติ (Recurring Net Profit) จำนวน 718 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (สรอ.) และมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานกว่า 2,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สรอ. ซึ่งเป็นผลจากการปรับลดค่าใช้จ่ายและเลือกลงทุนเฉพาะในโครงการที่มีความคุ้มค่าในภาวะราคาน้ำมันที่ตกต่ำ โดยสามารถลดค่าใช้จ่ายและเงินลงทุนได้รวมประมาณ 30% ซึ่งมีผลให้ต้นทุนขายต่อหน่วย (Unit Cost) ลดลงกว่า 11% จากปี 2557 นอกจากนี้บริษัทยังบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมันโดยได้มีการทำประกันความเสี่ยงราคาน้ำมัน (Oil Price Hedging) ซึ่งในปีที่ผ่านมามีกำไรกว่า 120 ล้านดอลลาร์ สรอ. ขณะนี้บริษัทมีเงินสดในมือประมาณ 3,200 ล้านดอลลาร์ สรอ. สามารถรองรับภาวะราคาน้ำมันที่ผันผวน และโอกาสทางธุรกิจโดยการเข้าซื้อกิจการที่เหมาะสมและคุ้มค่า

อย่างไรก็ตาม จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงและเงินบาทที่อ่อนค่าอย่างต่อเนื่องในปี 2558 ส่งผลให้ ปตท.สผ. ต้องมีการบันทึกด้อยค่าสินทรัพย์ (Impairment) จำนวน 1,385 ล้านดอลลาร์ สรอ. พร้อมทั้งมีค่าใช้จ่ายทางภาษีรอการตัดบัญชี และภาษีอื่นๆ ที่เกิดจากความแตกต่างระหว่างสกุลเงินที่ใช้ในการยื่นภาษีกับสกุลเงินที่ใช้ในการบันทึกบัญชีตามมาตรฐานบัญชี โดยไม่มีผลกระทบกับกระแสเงินสด ส่งผลให้ผลการดำเนินงานปี 2558 ขาดทุนสุทธิ จำนวน 854 ล้านดอลลาร์ สรอ. เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2557 ซึ่งมีกำไรสุทธิ จำนวน 677 ล้านดอลลาร์ สรอ.

ในปี 2558 ปตท.สผ. มีรายได้รวม จำนวน 5,654 ล้านดอลลาร์ สรอ. เมื่อเทียบกับ 7,834 ล้านดอลลาร์ สรอ. ในปี 2557 ซึ่งเป็นผลจากราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยในปี 2558 ลดลงตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมาอยู่ที่ 45.29 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ จาก 63.71 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบในปี 2557 แม้ว่าปริมาณการขายในปี 2558 จะเพิ่มขึ้นจากผลการดำเนินงานตลอดปีของโครงการซอติก้า รวมทั้งแหล่งเบอร์ซาบา ในโครงการแอลจีเรีย 433 เอ และ 416 บี ซึ่งเริ่มผลิตน้ำมันดิบในไตรมาส 4 ที่ผ่านมา

สำหรับค่าใช้จ่ายรวม ก่อนบันทึกการด้อยค่าสินทรัพย์ในปี 2558 อยู่ที่ 4,642 ล้านดอลลาร์ สรอ. ลดลงเมื่อเทียบกับ 5,087 ล้านดอลลาร์ สรอ. ในปี 2557 เนื่องจาก ปตท.สผ. ได้ลดค่าใช้จ่ายตามโครงการ SAVE to be SAFE ทำให้สามารถลดรายจ่ายลงทุน (capital expenditure หรือ CAPEX) และรายจ่ายดำเนินงาน (operating expenditure หรือ OPEX) ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตต่อหน่วย (Unit Cost) ลดลงทั้งในส่วนของค่าใช้จ่ายดำเนินงาน ค่าใช้จ่ายบริหาร ค่าใช้จ่ายการสำรวจ และค่าใช้จ่ายทางการเงินจากเดิม 43.45 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลในปี 2557 เป็น 38.88 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลในปี 2558 ซึ่งเป็นผลจากการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและลดต้นทุน โดยยังคงรักษามาตรฐานความเป็นเลิศด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม อาทิ การลดจำนวนวันและค่าใช้จ่ายในการเจาะหลุม โดยเฉพาะในอ่าวไทย ซึ่งที่ผ่านมาสามารถปรับลดค่าใช้จ่ายได้มากกว่า 20% การบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์ ได้แก่ การลดจำนวนเรือ การลดการสั่งซื้ออุปกรณ์การผลิตเพื่อมาเก็บไว้ การเจรจาต่อรองสัญญาจัดจ้างอุปกรณ์และบริการต่างๆ ทั้งที่มีอยู่ในปัจจุบัน และที่จะจัดจ้างในอนาคต รวมถึงการบริหารจัดการโครงสร้างเงินทุนให้เหมาะสมโดยการชำระคืนเงินกู้จำนวน 1,100 ล้านดอลลาร์ สรอ.

สำหรับสถานะการเงินของบริษัท ณ สิ้นปี 2558 มีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 19,642 ล้านดอลลาร์สรอ. ซึ่งรวมเงินสดจำนวน 3,260 ล้านดอลลาร์ สรอ. มีส่วนของทุน 11,328 ล้านดอลลาร์ สรอ. และมีภาระหนี้ที่มีดอกเบี้ย 3,005 ล้านดอลลาร์ สรอ. ซึ่งจากการพิจารณาผลประกอบการและสถานะทางการเงินที่ยังแข็งแกร่ง ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2559 ได้มีมติอนุมัติเสนอจ่ายเงินปันผล ปี 2558 ที่อัตรา 3 บาทต่อหุ้น โดยบริษัทได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 2558 ในอัตรา 1 บาทต่อหุ้นแล้ว จึงยังคงเหลือเงินปันผลจ่ายสำหรับงวด 6 เดือนหลัง ที่จะจ่ายอีกในอัตราหุ้นละ 2 บาท โดยกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลเป็นวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2559 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 11 เมษายน 2559 ทั้งนี้ต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น

ปี 2559 ยังคงเป็นปีที่ท้าทายสำหรับ ปตท.สผ.และธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมทั่วโลก แต่จากการบริหารจัดการอย่างมืออาชีพ ซึ่งยังคงมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและลดต้นทุนโดยคำนึงถึงความคุ้มค่าเพื่อสร้างสมดุลระหว่างกำไรและกระแสเงินสดจากการขาย เราเชื่อว่าบริษัทจะยังคงสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มและผลตอบแทนที่เหมาะสมแก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม” นายสมพรกล่าว

28 มกราคม 2559 หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อแผนกบริหารงานสื่อมวลชน
ต้องจิตร พงศ์อรพินท์ โทร. 02 537 4587 E-mail: tongchitp@pttep.com
นลิน วิบูลย์ชาติ โทร. 02 537 4834 E-mail: nalinv@pttep.com
รัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี โทร. 02- 537 5410 E-mail: rudklaos@pttep.com
วิภาวี ปัญญาดี โทร. 02 537 4000 ต่อ 2531 E-mail: wipaweep@pttep.com

ข้อมูลความก้าวหน้าโครงการที่สำคัญของ ปตท.สผ. ในปี 2558

ปตท.สผ. มีโครงการสำรวจ พัฒนา และผลิตปิโตรเลียมในประเทศไทย และต่างประเทศ รวม 39 โครงการ ใน 11 ประเทศ โดยความก้าวหน้าของโครงการหลัก ๆ สามารถสรุปได้ ดังนี้

โครงการในประเทศไทย

โครงการส่วนใหญ่เป็นโครงการที่ดำเนินการผลิตแล้ว และสามารถรักษาระดับการผลิตได้อย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการบงกช โครงการอาทิตย์ โครงการเอส 1 และโครงการคอนแทร็ค 4

โครงการในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

โครงการซอติก้า ได้ก่อสร้างแท่นหลุมผลิตเฟส 1B แล้วเสร็จ จำนวน 1 แท่น และอยู่ระหว่างการก่อสร้างอีก 3 แท่น โครงการเวียดนาม 16-1 ประสบความสำเร็จในการดำเนินการผลิตครั้งแรกจากแท่นหลุมผลิต H5 โครงการเมียนมาร์ เอ็ม 3 ได้เสร็จสิ้นการเจาะหลุมประเมินผลเพิ่มเติมตามแผนงานที่วางไว้ และได้ตัดจำหน่าย (Write-off) หลุมประเมินจำนวน 4 หลุมที่ไม่พบศักยภาพเชิงพาณิชย์ ปัจจุบันโครงการอยู่ระหว่างการศึกษาทางวิศวกรรมเพื่อประเมินความเป็นไปได้ในการพัฒนาเชิงพาณิชย์

โครงการในออสตราเลเชีย

แหล่งมอนทารา มีปริมาณการผลิตตามปกติ แหล่งแคชเมเปิ้ล อยู่ระหว่างการศึกษาหาแนวทางของการพัฒนาให้คุ้มค่า

โครงการในทวีปอเมริกา

โครงการมาเรียนา ออยล์ แซนด์ อยู่ระหว่างพิจารณาแนวทางการดำเนินงานของโครงการ โดยจะเน้นการศึกษาเพื่อลดต้นทุนและลดความเสี่ยง โครงการบารารินเนียส์ เอพี 1 ได้รับการอนุมัติรายงานการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และคาดว่าจะเริ่มดำเนินการสำรวจได้ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2559 โครงการบราซิล บีเอ็ม อีเอส 23 พบปิโตรเลียมจากการเจาะหลุมสำรวจ และตัดจำหน่าย (Write-off) หลุมสำรวจที่ไม่พบศักยภาพเชิงพาณิชย์

โครงการในแอฟริกาและตะวันออกกลาง

โครงการแอลจีเรีย 433 เอ และ 416 บี ได้ผลิตน้ำมันดิบแล้วด้วยกำลังการผลิตประมาณ 20,000 บาร์เรลต่อวัน พร้อมทั้งเริ่มจำหน่ายน้ำมันดิบครั้งแรกในไตรมาส 4 ปี 2558 แล้ว โครงการแอลจีเรีย ฮาสสิ เบอร์ ราเคซ ได้เข้าสู่การสำรวจระยะที่ 3 และเสร็จสิ้นการเจาะหลุมสำรวจและประเมินผลแล้ว 5 หลุม โครงการโมซัมบิก โรวูม่า ออฟชอร์ แอเรีย วัน เสร็จสิ้นการเจาะหลุมประเมินผลทั้งหมดจำนวน 6 หลุม และได้คัดเลือกผู้รับเหมาก่อสร้างโรงงานผลิตแอลเอ็นจีบนบก และอยู่ระหว่างการคัดเลือกผู้รับเหมาสำหรับการติดตั้งอุปกรณ์ในทะเล รวมถึงการจัดหาเงินกู้ โดยในส่วนของการออกกฎหมายเพื่อสนับสนุนการดำเนินโครงการ (Decree Law) นั้น ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลและรับรองจากรัฐสภาของสาธารณรัฐโมซัมบิกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

หากสื่อมวลชนต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อแผนกบริหารงานสื่อมวลชน

The information, statements, forecasts and projections contained herein reflect the Company’s current views with respect to future events and financial performance. These views are based on assumptions subject to various risks. No assurance is given that these future events will occur, or that the Company’s future assumptions are correct. Actual results may differ materially from those projected.