ข่าวประชาสัมพันธ์

บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. กำหนดงบลงทุน 2,090 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (สรอ.) โดยมีค่าใช้จ่ายดำเนินการประมาณ 1,353 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (สรอ.) ในปี 2559 ซึ่งเป็นการปรับลดลงอย่างต่อเนื่องจากปี 2558 ซึ่งบริษัทสามารถลดค่าใช้จ่ายได้ร้อยละ 25ของงบประมาณต้นปี 2558 เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ขณะที่ยังคงตั้งเป้าปริมาณการขายเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าปี 2558

นายสมพร ว่องวุฒิพรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.สผ. กล่าวว่า บริษัทฯ ได้จัดสรรเงินลงทุนในปี 2559 รวม 3,443 ล้านดอลลาร์ สรอ. ซึ่งลดลงอย่างต่อเนื่องจากตัวเลขประมาณการการใช้จ่ายล่าสุดของปี 2558 เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในระดับต่ำในปีที่ท้าทายที่กำลังจะมาถึง โดยแบ่งเป็นรายจ่ายลงทุนประมาณ 2,090 ล้านดอลลาร์ สรอ. และรายจ่ายดำเนินงาน 1,353 ล้านดอลลาร์ สรอ. โดยยังตั้งเป้าปริมาณการขายที่ไม่ต่ำกว่าเดิมที่ 333,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน

สำหรับรายละเอียดงบลงทุนในปี 2559 แบ่งเป็นตามภูมิภาคดังนี้

• โครงการในประเทศไทย ได้รับการจัดสรรรายจ่ายลงทุนร้อยละ 55 ของรายจ่ายลงทุนทั้งหมด เน้นการรักษาระดับปริมาณการผลิต มีโครงการหลักที่สำคัญ ได้แก่ โครงการอาทิตย์ โครงการเอส 1 โครงการบงกช โครงการคอนแทร็ค 4 และโครงการ MTJDA
• โครงการในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีประมาณการรายจ่ายลงทุนคิดเป็นร้อยละ 27 เน้นการลงทุนในประเทศเมียนมาร์ เช่น การลงทุนเพื่อรักษาระดับการผลิตของโครงการซอติก้า โครงการยาดานา และโครงการเยตากุน รวมถึงการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาเชิงพาณิชย์ของโครงการเมียนมาร์เอ็ม 3
• โครงการในภูมิภาคอื่นๆ ได้แก่ ออสเตรเลีย อเมริกาเหนือและอเมริกาใต้ แอฟริกา และตะวันออกกลาง มีประมาณการรายจ่ายลงทุนร้อยละ 18 โครงการที่สำคัญคือ โครงการโมซัมบิก โรวูมา ออฟชอร์ แอเรีย วัน นอกจากนี้ยังลงทุนในกิจกรรมสำรวจในโครงการบราซิล บีเอ็ม อีเอส 23

โดยปริมาณขายปิโตรเลียมเฉลี่ยในปี 2559 ที่ 333,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 331,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ ซึ่งคาดการณ์ไว้สำหรับปี 2558 โดยในปีหน้าบริษัทฯ จะรับรู้การผลิตน้ำมันดิบเต็มปีจากแหล่งเบอร์ซาบา ในโครงการแอลจีเรีย 433เอ และ 416บี ซึ่งเริ่มผลิตในไตรมาสสุดท้ายของปี 2558 ด้วยกำลังผลิตเฉลี่ย 20,000 บาร์เรลต่อวัน

นอกจากแผนการลงทุนแล้ว ปตท.สผ. ยังให้ความสำคัญกับการบริหารสภาพคล่องภายใต้ภาวะราคาน้ำมันและตลาดเงิน ตลาดทุนที่ผันผวน ซึ่งเป็นโอกาสให้บริษัทเข้าซื้อกิจการหรือร่วมลงทุนในแหล่งปิโตรเลียมที่มีศักยภาพในพื้นที่ที่เป็นฐานการเติบโตเชิงกลยุทธ์ (Growth Platform) ในระยะยาวเช่น ประเทศไทย และประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะลักษณะโครงการที่บริษัทฯ มีความสามารถดำเนินการ เช่น แปลงน้ำตื้น หรือโครงการผลิตน้ำมันดิบจากแหล่งปิโตรเลียมรูปแบบเดิม (Conventional)

ทั้งนี้บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าโครงการลดต้นทุนการดำเนินธุรกิจ (โครงการ SAVE to be SAFE) ซึ่งริเริ่มมาตั้งแต่ปี 2557 เพื่อลดค่าใช้จ่ายให้สอดคล้องกับสภาวะราคาน้ำมันที่ลดลง ซึ่งในปี 2558 บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการลดรายจ่ายรวมลงได้ประมาณร้อยละ 25 ของงบประมาณต้นปี 2558

สำหรับแผนการลงทุน 5 ปี ของบริษัทฯ ในช่วงปี 2559-2563 แบ่งเป็นรายจ่ายลงทุนประมาณ 11,100 ล้านดอลลาร์ สรอ. และรายจ่ายดำเนินงานประมาณ 6,700 ล้านดอลลาร์ สรอ. โดยมีรายละเอียดดังนี้

หน่วย:ล้านดอลลาร์ สรอ.

“บริษัทได้จัดทำประมาณการฐานะการเงินและแผนลงทุนภายใต้ภาวะตลาดที่ผันผวน โดยยังคงมีความยืดหยุ่นในการปรับลดหรือปรับขึ้นเงินลงทุนตามสถานการณ์ราคาน้ำมัน ขณะที่ให้ความสำคัญกับเป้าหมายของบริษัทในการรักษาความสมดุลระหว่างการเติบโตของธุรกิจและผลประกอบการให้มีความมั่นคงในระยะยาว” นายสมพร กล่าว